วันอาทิตย์, พฤษภาคม 09, 2564

Ot Klan

 
แม้กุลบุตรก็ฉันนั้น บวชแล้วเสพบิณฑบาต เพียงเพื่อ
...ฯลฯ... การอยู่ผาสุก ดังนี้.
บทว่า สเจ ธาวติ เต จิตฺตํ ความว่า ถ้าจิตของเธอมนสิการโดย
ไม่แยบคาย ย่อมวิ่งไป คืออาทิผิด อักขระซ่านไป แล่นไป ด้วยอำนาจฉันทราคะในกาม
คือกามคุณ ๕ และด้วยอำนาจปรารถนาภพ ในบรรดาภพทั้งหลายมี
กามภพเป็นต้น.
บทว่า ขิปฺปํ นิคฺคณฺห สติยา กิฏฺฐาทํ วิย ทุปฺปสุํ ความว่า เธอ
เมื่อจะให้จิตวิ่งไปอย่างนั้น จงเอาสติ ได้แก่ เชือก คือสติผูกไว้ที่หลัก
คือสมาธิ รีบข่มเสียโดยรวดเร็ว เหมือนบุรุษเอาเชือกผูกสัตว์เลี้ยงตัวเกเร
คือโคตัวร้ายซึ่งเคี้ยวกินข้าวกล้า ไว้ที่หลักทำให้อยู่ในอำนาจของตนฉะนั้น
คือเธอจงทรมานโดยประการที่จะหมดพยศเพราะปราศจากกิเลส. ส่วน
อาจารย์บางพวกกล่าวว่า พระเถระยังเป็นปุถุชนอยู่เลย อดกลั้นอาทิผิด อาณัติกะการด่า
เสียได้ เมื่อจะประกาศคุณอันประเสริฐ จึงกล่าวธรรมแก่มนุษย์เหล่านั้น
ภายหลังจึงโอวาทตนด้วยคาถา ๒ คาถา แล้วเจริญด้วยวิปัสสนาได้บรรลุ
พระอรหัต เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผล จึงได้กล่าวคาถาเหล่านี้นั่นแล.
จบอรรถกถาพรหมทัตตเถรคาถาที่ ๑๒
 
๕๒/๓๕๘/๒๒๒

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก