วันเสาร์, มกราคม 07, 2566

Hai

 
ถ่านเพลิงแล้วบรรทม ได้ทรงสดับเสียงร้องครวญครางและเสียงคำรามในราตรี
พระองค์ทรงกำหนดว่า ที่ตรงโน้นสีหะแผดเสียง ตรงโน้นเสือคำราม ครั้นสว่าง
จึงเสด็จไป ณ ที่นั้นทรงถือเนื้อที่เป็นเดน (ของสัตว์) ปิ้งเสวย.
อยู่มาวันหนึ่ง ตอนใกล้รุ่ง พระองค์ประทับนั่งตามไฟอยู่. ขณะนั้น
เสือโคร่งได้กลิ่นพระราชธิดา จึงตะกายที่พื้นนั้นทำให้เป็นช่องบนพื้นกระดาน.
พระนางทรงเห็นเสือทางช่องนั้น ทรงตกพระทัยกลัวร้องกรี๊ดจนสุดเสียง. พระ-
ราชาทรงสดับเสียงนั้น และทรงกำหนดว่า นั่นเป็นเสียงสตรีจึงเสด็จไป ณ ที่
นั้นแต่เช้าตรู่ ตรัสถามว่า ใครอยู่ในที่นี้. พระนางตอบว่า ผู้หญิงจ้ะนาย. ตรัส
ว่า ออกมาเถิด. ทูลว่า ออกไปไม่ได้. ตรัสว่า เพราะอะไร. ทูลว่า ดิฉันเป็น
นางกษัตริย์. พระนางแม้ถูกขังอยู่ในหลุมอย่างนั้นยังมีขัตติยมานะ. พระราชา
รับสั่งถามเรื่องราวทั้งหมด แล้วจึงตรัสบอกพระชาติของพระองค์ว่า เราก็เป็น
กษัตริย์. ตรัสต่อไปว่า ออกมาเดี๋ยวนี้เถิดปรากฏดุจเนยใสใส่ลงในน้ำนม.
พระนางทูลว่า หม่อมฉันเป็นโรคเรื้อน ไม่อาจออกไปได้เพคะ. พระราชา
ตรัสว่า บัดนี้เราหัวอกอันเดียวกัน เราสามารถเยียวยาให้หายอาทิผิด อักขระได้จึงทอดบันได
อุ้มพระนางขึ้นมาทรงนำไปยังที่ประทับของพระองค์ พระราชทานยาที่พระองค์
เสวยด้วยพระองค์เอง ไม่ช้าก็ทำให้พระนางหายจากพระโรคมีพระฉวีดุจทองคำ.
พระราชาก็ทรงอยู่ร่วมกับพระนางนั้น. ด้วยการอยู่ร่วมครั้งแรกเท่านั้นพระนาง
ก็ทรงครรภ์ ประสูติพระโอรสสององค์ ประสูติพระโอรสครั้งละสององค์
๑๖ ครั้ง. รวมเป็นพระโอรส ๓๒ องค์ ด้วยประการฉะนี้. พระบิดาได้ให้พระ-
โอรสผู้เจริญวัยเหล่านั้นได้ศึกษาศิลปะทุกแขนง.
 
๔๗/๓๓๑/๓๓๗

ไม่มีความคิดเห็น: