วันศุกร์, มิถุนายน 13, 2568

Samphat

 
[๘] ก็ภพเป็นไฉน. ภพ ๓ เหล่านี้คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ
นี้เรียกว่าภพ.
[๙] ก็อุปาทานเป็นไฉน. อุปาทาน ๔ เหล่านี้คือ กามุปาทาน
ทิฏฐุปาทาน สีลพัตตุปาทาน อัตตวาทุปาทาน นี้เรียกว่าอุปาทาน.
[๑๐] ก็ตัณหาเป็นไฉน. ตัณหา ๖ หมวดเหล่านี้คือ รูปตัณหา
สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพตัณหา ธัมมตัณหา นี้
เรียกว่าตัณหา.
[๑๑] ก็เวทนาเป็นไฉน. เวทนา ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุ-
สัมผัสสชาเวทนา โสตสัมผัสสชาเวทนา ฆานสัมผัสสชาเวทนา ชิวหา-
สัมผัสสชาเวทนา กายสัมผัสสอาทิผิด อักขระชาเวทนา มโนสัมผัสสชาเวทนา นี้เรียกว่า
เวทนา.
[๑๒] ก็ผัสสะเป็นไฉน. ผัสสะ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุสัมผัส
โสตสัมผัส ฆานสัมผัส ชิวหาสัมผัส กายสัมผัส มโนสัมผัส นี้เรียกว่า
ผัสสะ.
[๑๓] ก็สฬายตนะเป็นไฉน. อายตนะคือ ตา หู จมูก ลิ้น
กาย ใจ นี้เรียกว่าสฬายตนะ.
[๑๔] ก็นามรูปเป็นไฉน. เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ
มนสิการ นี้เรียกว่านาม, มหาภูตรูป ๔ และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔
นี้เรียกว่ารูป, นามและรูปดังพรรณนาฉะนี้ เรียกว่านามรูป.
[๑๕] ก็วิญญาณเป็นไฉน. วิญญาณ ๖ หมวดเหล่านี้คือ จักขุ-
วิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ
มโนวิญญาณ นี้เรียกว่าวิญญาณ.
 
๒๖/๑๑/๒๑

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก