วันอังคาร, ธันวาคม 06, 2565

Lae

 
จงยืนมองดูพระอาทิตย์อย่างเดียว. ก็แลสุนัขจิ้งจอก ครั้นพูดอย่างนี้แล้ว ก็
เข้าไปสู่ป่าการะเกต หนีไปตามชอบใจ. ฝ่ายพราหมณ์มองดูพระอาทิตย์นั้น
เทียว จนเหงื่อไหลออกจากหน้าผาก และอาทิผิด สระรักแร้. ลำดับนั้น รุกขเทวดาได้
กล่าวกะพราหมณ์นั้นว่า
ดูก่อนพราหมณ์ ท่านเชื่อสุนัขจิ้งจอก
ดื่มสุรา สุนัขจิ้งจอกทั้งร้อยไม่มีศิลปะ
กหาปณะตั้งสองร้อยจะมีแต่ที่ไหน.
ด้วยประการฉะนี้ ความเลื่อมใสในกาณสิงคาล ไร้ประโยชน์ ฉันใด
ความปีติอย่างดีในเดียรถีย์ ก็ไร้ประโยชน์ฉันนั้น.
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงแสดงความที่ความเลื่อมใสในศาสนาที่ไม่
เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ เป็นสิ่งไร้ประโยชน์แล้ว เพื่อทรงแสดงความที่
เลื่อมใสนั้นในศาสนาที่เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ว่า เป็นสิ่งมีประโยชน์ จึง
ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ตถาคตแล ดังนี้เป็นต้น. บรรดาบทเหล่านั้น
บทว่า กามูปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญาเปติ ความว่า ทรงบัญญัติความ
รอบรู้ในการละ คือ การก้าวล่วงกามูปาทาน ด้วยอรหัตตมรรค ทรงบัญญัติ
ความรอบรู้อุปทาน ๓ อย่างนอกนี้ ด้วยโสดาปัตติมรรค. บทว่า เอวรูเป
โข ภิกฺขเว ธมฺมวินเย ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในธรรมและวินัย
เห็นปานนี้ ทรงแสดงศาสนาที่เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ด้วยบทแม้ทั้งสอง.
บทว่า สตฺถริ ปสาโท ความว่า ในศาสนาเห็นปานนี้ ความเลื่อมใสใน
พระศาสดาใด ความเลื่อมใสนั้น เรากล่าวว่า ไปแล้วโดยชอบ คือ ย่อมเป็น
ไปเพื่อสลัดออกจากทุกข์ในภพ. ในข้อนั้นมีเรื่องเหล่านี้.
 
๑๘/๑๕๘/๓๒

ไม่มีความคิดเห็น: