วันเสาร์, มิถุนายน 03, 2566

Klao

 
แล้วในนิเวศน์คือตัณหาและทิฏฐิทั้งปวง เพราะละการเข้าไปใกล้แม้ธรรมสอง
อย่างได้แล้ว. พึงทราบคาถาว่า สญฺญาวิรตฺตสฺส ต่อไป.
ในบทเหล่านั้น บทว่า สญฺญาวิรตฺตสฺส แก่บุคคลผู้คลายสัญญาได้
แล้ว คือ สัญญามีกามสัญญาเป็นต้น จะได้แล้วด้วยภาวนาอันมีเนกขัมสัญญา
เป็นหัวหน้า. ด้วยบทนี้ท่านประสงค์เอาสมถยานิก (มีสมถะเป็นยาน) อันเป็น
อุภโตภาควิมุต (พ้นแล้วทั้งสองฝ่าย). บทว่า ปญฺญาวิมุตฺตสฺส แก่บุคคลผู้
หลุดพ้นแล้วด้วยปัญญา คือหลุดพ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวงด้วยภาวนาอันมี
วิปัสสนาเป็นหัวหน้า ด้วยบทนี้ท่านประสงค์เอาพระสุกขวิปัสสก. บทว่า
สญฺญญฺจ ทิฏฺฐิญฺจ เย อคฺคเหสุํ เต ฆฏฺฏมานา วิจรนฺติ โลเก ชน
เหล่าใดถือสัญญาและทิฏฐิ ชนเหล่านั้นกระทบกระทั่งกันและกันเที่ยวไปใน
โลกความว่า ชนเหล่าใดถือสัญญามีกามสัญญาเป็นต้นโดยเฉพาะ ชนเหล่านั้น
เป็นคฤหัสถ์กระทบกระทั่งกันมีกามเป็นเหตุเที่ยวไป อนึ่งชนเหล่าใดถือทิฏฐิ
โดยเฉพาะ ชนเหล่านั้นเป็นบรรพชิต ชนเหล่านั้นกระทบกระทั่งกันและกันมี
ธรรมเป็นเหตุเที่ยวไป. บทที่เหลือในสูตรนี้บทใดยังมิได้กล่าวไว้ บทนั้นพึง
ทราบโดยทำนองเดียวกันกับที่ท่านกล่าวอาทิผิด ไว้แล้วนั่นแล.
เมื่อจบเทศนา พราหมณ์และนางพราหมณีออกบวชแล้ว ได้บรรลุ
พระอรหัต.
จบอรรถกถามาคันทิยสูตรที่ ๙ แห่งอรรถกถาขุททกนิกาย
ชื่อปรมัตถโชติกา
 
๔๗/๔๑๖/๗๗๘

ไม่มีความคิดเห็น: