วันพุธ, มกราคม 03, 2567

Saha Chiwini

 
สองบทว่า อารามญฺจ ปวารณา ได้แก่ ๒ สิกขาบทที่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่า ภิกษุณีใด รู้อยู่ ซึ่งอารามอันมีภิกษุ ไม่ไต่ถามก่อน พึงเข้าไป
ดังนี้ ๑ ภิกษุณีใด จำพรรษาแล้ว พึงไม่ปวารณาด้วยสถาน ๓ . . .ให้อุภโต
สงฆ์ ดังนี้ ๑.
หลายบทว่า อนฺวชฑฺฒมาสํ สหชีวินี เทฺว ได้แก่ สิกขาบทที่
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ธรรม ๒ อย่าง (คือ อุโบสถ ๑ การเข้าไปหา
เพื่อโอวาท ๑) อันภิกษุณีพึงหวังเฉพาะจากสงฆ์ทุกกึ่งเดือน และ ๒ สิกขาบท
ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุณีใด พึงยังสหชีวินีอาทิผิด สระให้บวชแล้ว ไม่อนุเคราะห์
ตลอด ๒ พรรษา ๑ ภิกษุณีใด พึงยังสหชีวินีให้บวชแล้ว ไม่พาไปเอง ๑.
สองบทว่า จีวรํ อนุพนฺธนา ได้แก่ ๒ สิกขาบทที่พระผู้มีพระภาค-
เจ้าตรัสว่า ภิกษุณีใด พึงพูดกะนางสิกขมานาว่า แน่ะแม่เจ้า ถ้าว่า เธอจักให้
จีวรแก่เราไซร้ ด้วยอย่างนั้น เราจักยังเธอให้อุปสมบท ดังนี้เป็นต้น ๑ ภิกษุณี
ใด พึงพูดกะนางสิกขมานาว่า แน่ะแม่เจ้า ถ้าว่า เธอจักติดตามเราไปตลอด
๒ พรรษาไซร้ ด้วยอย่างนั้น เราจักยังเธอให้อุปสมบท ดังนี้ ๑.
ธรรม ๓๗ เหล่านี้ (ทั้งหมด เป็นสมุฏฐานอันหนึ่ง มีองค์ ๓ คือ
กาย วาจา จิต เหมือนสมนุภาสนสมุฏฐาน).

[ว่าด้วยกฐินสมุฏฐาน]
สามบทว่า อุพฺภตํ กฐินํ ตีณิ ได้แก่ ๓ สิกขาบทข้างต้นที่พระผู้มี
พระภาคตรัสว่า ครั้นจีวรสำเร็จแล้ว กฐินอันภิกษุรื้อเสียแล้ว.
 คือ ทิฏฺเฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา.
 
๑๐/๘๔๐/๓๖๐

ไม่มีความคิดเห็น: