วันศุกร์, มกราคม 12, 2567

Khela

 
มีอยู่ในดงใหญ่ ท่านจงเข้าไปอาศัยอัญชนบรรพตนั้นอยู่เถิด. ในวาระที่สี่
พระโพธิสัตว์เรียกกาลเทวลดาบสมาสั่งไปว่า ท่านกาลเทวละ ในแคว้นอวันตี
ในทักขิณาชนบท มีภูเขาชื่อฆนเสลบรรพต ท่านจงเข้าไปอาศัยฆนเสลบรรพต
นั้นอยู่เถิด อาศรมในกปิฎฐวันก็เต็มบริบูรณ์อีก ในสถานที่ทั้ง ๕ แห่งได้มี
หมู่ฤๅษีจำนวนแสนเศษ ส่วนกีสวัจฉดาบส อำลาพระมหาสัตว์ เข้าไปอาศัย
ท่านเสนาบดีอยู่ในพระราชอุทยาน ในกุมภวตีนคร แว่นแคว้นของพระเจ้า
ทัณฑกีราช. ท่านนารทดาบส ไปอยู่ที่เวิ้งเขาชื่ออัญชนคิรีในมัชฌิมประเทศ
ส่วนอนุสิสสดาบสคงอยู่ในสำนักของพระมหาสัตว์นั่นเอง.
กาลครั้งนั้น พระเจ้าทัณฑกีราช ทรงถอดหญิงแพศยาคนหนึ่ง ซึ่งได้
สักการะแล้วจากตำแหน่ง นางเที่ยวไปตามธรรมดาของตน เดินไปสู่พระราช
อุทยานพบท่านกีสวัจฉดาบส คิดว่า ดาบสผู้นี้คงจักเป็นคนกาลกรรณี เราจัก
ลอยตัวกลี ลงบทสรีระของดาบสผู้นี้ อาบน้ำก่อนจึงจักไป ดังนี้แล้ว จึงเคี้ยว
ไม้สีฟัน แล้วถ่มเขฬะอาทิผิด อาณัติกะหนา ๆ ลงบนสรีระของท่านดาบสนั้น ก่อนที่อื่นทั้งหมด
แล้วถ่มลงไประหว่างชฎา แล้วโยนไม้สีฟันไปบนศีรษะของท่านกีสวัจฉดาบส
นั้นอีก ตนเองสนานเกล้าแล้วไป. ต่อมาพระราชาทรงระลึกถึงนางแล้วจัดการ
สถาปนาไว้ตามเดิม. นางเป็นคนหลงงมงาย ได้ทำความสำคัญว่า เพราะเรา
ลอยตัวกลีไว้บนสรีระของคนกาลกรรณี พระราชาจึงทรงสถาปนาเราไว้ใน
ตำแหน่งเดิม เราจึงกลับได้ยศอีก ต่อมาไม่นานนัก พระราชาก็ทรงถอดปุโรหิต
เสียจากฐานันดรศักดิ์. ปุโรหิตนั้นจึงไปยังสำนักของหญิงคณิกานั้น ถามว่า
เพราะเหตุไรท่านจึงได้ตำแหน่งคืน. ลำดับนั้น หญิงคณิกาจึงบอกว่า เพราะดิฉัน
ลอยกลีโทษ บนสรีระของคนกาลกรรณี ในพระราชอุทยาน. ปุโรหิตจึงไป
ลอยกลีโทษ บนสรีระของท่านกีวัจฉดาบส อย่างนั้นเหมือนกัน พระราชา
ก็กลับทรงสถาปนาแม้ปุโรหิตนั้นไว้ในฐานันดรอีก.
 
๖๑/๒๔๗๗/๖๐๑

ไม่มีความคิดเห็น: