วันพุธ, มกราคม 24, 2567

Chao Na

 
น้ำนม เนยใส น้ำอ้อย อยู่ที่ตรงโน้น เจ้าจงหุงภัตพร้อมด้วยน้ำนมเนยใส
และน้ำอ้อยถวายในเวลาที่พระผู้เป็นเจ้ามิตตะพี่ชายของเจ้ามา แล้วเจ้าจง
บริโภค ” ดังนี้. ธิดากล่าวว่า “ ก็แม่เล่า จะบริโภคอะไร. ” อุบาสิกากล่าวว่า
“ เมื่อวานนี้ ปาริวาสิกภัต ( ข้าวที่หุงสำหรับภิกษุผู้อยู่ปริวาส ) เหลืออยู่ แม่
จะบริโภคภัตนั้นกับน้ำผักดอง.” ธิดากล่าวว่า “กลางวันแม่จะบริโภคอะไร.”
มารดากล่าวว่า “ เจ้าจงเอาใบผักใส่เข้าไปแล้วหุงข้าวต้มมีรสเปรี้ยวด้วยข้าว
ปลายเกรียน (ข้าวสารแหลก ๆ) แล้วตั้งไว้เถิดแม่” ดังนี้. พระเถระห่มจีวร
นำบาตรออกมา ได้ยินเสียงนั้น จึงโอวาทตนเองว่า “ได้ยินว่า มหาอุบาสิกา
จะกินปาริวาสิกภัตด้วยน้ำผักดอง แม้กลางวันก็จะกินข้าวต้มรสเปรี้ยวด้วยใบผัก
แต่ว่าอุบาสิกาบอกข้าวสารเก่าเป็นต้น เพื่อประโยชน์แก่ท่าน ก็มหาอุบาสิกานั้น
แล มิได้หวังนา สวน ข้าวและวัตถุ เพราะอาศัยท่านเลย แต่เขาปรารถนาอยู่
ซึ่งสมบัติ ๓ (คือ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ) จึงให้ ท่าน
จักอาจเพื่อให้สมบัติเหล่านั้นแก่เขาหรือไม่ ก็แลบิณฑบาตนี้ ท่านยังมีราคะ
โทสะ โมหะ ไม่ควรจะกิน” ครั้นโอวาทตนแล้ว ก็เก็บถุงบาตรปลดลูกดุม
(ที่จีวร) กลับเข้าไปสู่ถ้ำชาวนาอาทิผิด อักขระนั้นแหละ แล้ววางบาตรไว้ใต้เตียง พาดจีวร
ไว้ที่ราวจีวรแล้วนั่งอธิษฐานความเพียรว่า “เรายังไม่บรรลุพระอรหัตแล้ว
จักไม่ออกไป” ดังนี้เป็นผู้ไม่ประมาทตลอดกาลนาน เป็นภิกษุผู้มั่นคงแล้ว
เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตในเวลาก่อนภัตทีเดียว เป็นพระขีณาสพผู้
เบิกบานนั่งอยู่ ราวกะดอกปทุมแย้มบานอยู่ฉะนั้น. เทวดาผู้สิงอยู่ที่ต้นไม้ใกล้
ประตูถ้ำชาวนา เปล่งอุทานว่า
 
๗๘/๔๖๔/๑๔๐

ไม่มีความคิดเห็น: