วันอังคาร, ตุลาคม 11, 2565

Rung Rueang

 
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ลูนเกสี ได้แก่ ชื่อว่าถอนผม เพราะ
ข้าพเจ้าถูกถอนถูกทิ้งผม คือมีผมถูกถอนด้วยเสี้ยนตาล ในการบวชในลัทธิ
นิครนถ์ พระเถรีกล่าวหมายถึงลัทธินั้น. บทว่า ปงฺกธรี ได้แก่ ชื่อว่าอมมูล
ฟัน เพราะคงไว้ซึ่งปังกะคือมลทินในฟันทั้งหลาย เพราะยังไม่เคี้ยวไม้
ชำระฟัน. บทว่า เอกสาฏี ได้แก่ มีผ้าผืนเดียว ตามจารีตนิครนถ์ บทว่า
ปุเร จรึ ได้แก่ แต่ก่อนข้าพเจ้าเป็นนักบวชหญิงนิครนถ์ (นิคนฺถี) เที่ยวไป
อย่างนี้. บทว่า อวชฺเช วชฺชมตินี ได้แก่ สำคัญในสิ่งที่ไม่มีโทษมีการ
อาบน้ำ ขัดสีตัวและเคี้ยวไม้สีฟันเป็นต้นว่ามีโทษ. บทว่า วชฺเช จาวชฺช-
ทสฺสินี ได้แก่ เห็นในสิ่งที่มีโทษมีมานะ มักขะ ปลาสะและวิปัลลาสะเป็นต้น
ว่าไม่มีโทษ.
บทว่า ทิวาวิหารา นิกขมฺม ได้แก่ ออกจากสถานที่พักกลางวัน
ของตน. ภัททาปริพาชิกาแม้นี้ มาพบพระเถระเวลาเที่ยงตรง ถูกพระเถระ
กำจัดความกระด้างด้วยมานะเสีย ด้วยการตอบปัญหานั้น และแสดงธรรม
ก็มีใจเลื่อมใส ประสงค์จะเข้าไปยังสำนัก จึงกลับไปยังที่อยู่ของตน นั่งพัก
กลางวัน เวลาเย็นจึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดา.
บทว่า นิหจฺจ ชานุํ วนฺทิตฺวา ความว่า ด้วยการคุกเข่าทั้งสอง
ลงที่แผ่นดินตั้งอยู่ ชื่อว่าตั้งอยู่ด้วยองค์ ๕. บทว่า สมฺมุขา อญฺชลึ อกึ
ความว่าได้ทำอัญชลีที่รุ่งเรืองอาทิผิด อาณัติกะด้วยการประนม ๑๐ นิ้ว ต่อพระพักตร์ของพระ
ศาสดา. บทว่า เอหิ ภทฺเทติ มํ อวจ สา เม อวสูปสมฺปทา ความว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสั่งข้าพเจ้า ผู้บรรลุพระอรหัต แล้วทูลขอบรรพชา
อุปสมบทว่า ภัททา จงมา เจ้าจงไปสำนักภิกษุณี บรรพชาอุปสมบทเสียที่
สำนักภิกษุณีดังนี้อันใด พระดำรัสสั่งของพระศาสดานั้น ได้เป็นอุปสัมปทา
เพราะเป็นเหตุแห่งการอุปสมบทของข้าพเจ้า
 
๕๔/๔๔๗/๑๘๒

ไม่มีความคิดเห็น: