วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 27, 2565

Ratchumala

 
ภายหลัง ทาสีนั้นจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เวียนว่ายไป ๆ มา ๆ อยู่
ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในหมู่บ้านคยา ไปมี
สามี ตามนัยดังกล่าวแล้ว ส่วนหญิงอีกคนหนึ่งได้เป็นทาสีของนาง นาง
จึงเบียดเบียนเธอเพราะผูกอาฆาตกันไว้อย่างนั้น.
เมื่อเบียดเบียนอยู่อย่างนี้ โดยไม่มีเหตุที่สมควรเลย นางได้จิกผม
ใช้ทั้งมือทั้งเท้าตบถีบอย่างเต็มที่ ทาสีนั้นไปศาลาอาบน้ำ โกนผมเสีย
เกลี้ยง หญิงผู้เป็นนายกล่าวว่า เฮ้ย อีทาสีชั่ว เพียงโกนผมเกลี้ยง มึง
จะพ้นหรือ แล้วเอาเชือกพันศีรษะ จับนางให้ก้มลงเฆี่ยนตรงนั้น และ
ไม่ให้นางเอาเชือกนั้นออก นางทาสีจึงได้ชื่อว่า รัชชุอาทิผิด สระมาลา ตั้งแต่นั้นมา.
ต่อมาวันหนึ่ง ตอนใกล้รุ่ง พระศาสดาเสด็จออกจากมหากรุณา-
สมาบัติ ทรงตรวจดูสัตวโลก ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติผลของ
นางรัชชุมาลา และการดำรงอยู่ในสรณะและศีลของนางพราหมณีนั้น
จึงเสด็จเข้าไปป่าประทับนั่งที่โคนไม้ต้นหนึ่ง ทรงเปล่งพระพุทธรัศมี
มีพรรณะ ๖ ไป. ฝ่ายนางรัชชุมาลาเล่า ถูกเขาเบียดเบียนอยู่เช่นนั้น
ทุก ๆ วัน คิดว่าจะมีประโยชน์อะไรด้วยชีวิตอันลำเค็ญเช่นนี้ของเรา ดังนี้
เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต ประสงค์จะตายเสีย จึงถือเอาหม้อน้ำออก
จากเรือนไป ทำทีเดินไปท่าน้ำ เข้าไปตามลำดับ ผูกเชือกเข้าที่กิ่งไม้
ต้นหนึ่ง ที่ไม่ไกลต้นไม้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่ง ประสงค์จะทำ
เป็นบ่วงผูกคอตาย มองดูไปข้างโน้นข้างนี้ ก็เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า
ประทับนั่งอยู่ ณ ที่นั้น ดูน่าพอใจ น่าเลื่อมใส ทรงบรรลุความฝึกและ
ความสงบอย่างสูงสุด กำลังเปล่งพระพุทธรัศมีมีพรรณะ ๖ อยู่. ครั้น
เห็นแล้วมีใจถูกความเคารพในพระพุทธเจ้าเหนี่ยวรั้งไว้จึงคิดว่า ทำไฉน
 
๔๘/๕๐/๔๐๓

ไม่มีความคิดเห็น: