วันพุธ, ตุลาคม 26, 2565

Banphacha

 
เกิดเป็นธิดาเศรษฐีมีสมบัติมาก ในกรุงพาราณสี ด้วยผลแห่งบุพกรรมจึงมี
ร่างกายเหม็น พวกมนุษย์รังเกียจ นางเกิดความสังเวชจึงเอาเครื่องประดับ
ของตนสร้างอิฐทองประดิษฐานไว้ที่เจดีย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า และถือดอก
อุบลบูชา ด้วยบุญกรรมนั้นร่างกายของนางมีกลิ่นหอมจับใจในภพนั้นเอง นาง
เป็นที่รักเป็นที่ชอบใจของสามี ทำกุศลตลอดชีวิตเคลื่อนจากอัตภาพนั้นเกิดใน
สวรรค์ แม้ในสวรรค์นั้นก็ได้เสวยทิพยสุขตลอดชีวิต จุติจากสวรรค์นั้นเป็น
ราชธิดาของพระเจ้าพาราณสี เสวยสมบัติเช่นกับสมบัติเทวดาในกรุงพาราณสี
นั้น บำรุงพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นเวลานาน เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้า
เหล่านั้นปรินิพพานแล้ว เกิดความสังเวช เป็นดาบสินีอยู่ในพระราชอุทยาน
เจริญฌานทั้งหลายแล้วเกิดในพรหมโลก จุติจากพรหมโลกนั้นเกิดในเรือนของ
ตระกูลพราหมณ์โกสิยโคตร ในสาคลนคร เติบโตขึ้นด้วยบริวารใหญ่ เจริญ
วัยแล้วบิดามารดานำไปสู่เรือนของปิปผลิกุมารในมหาติตถคาม เมื่อปิปผลิกุมาร
ออกบวช นางละโภคะกองใหญ่และญาติหมู่ใหญ่ออกเพื่อต้องการบวช เข้าไป
อยู่ในอารามเดียรถีย์ ๕ ปี เวลาต่อมา นางได้บรรพชาอาทิผิด อักขระและอุปสมบทในสำนัก
ของพระมหาปชาบดีโคตมี เริ่มตั้งวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต
เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ในอปทานว่า
ในกัปที่หนึ่งแสนแต่ภัทรกัปนี้ พระพิชิตมาร
พระนามว่าปทุมุตตระ ผู้รู้จบธรรมทั้งปวง เป็นนายก
ของโลก เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว ครั้งนั้น ในพระนคร
หังสวดี มีเศรษฐีชื่อว่าวิเทหะ เป็นผู้มีรัตนะมาก
ข้าพเจ้าเป็นชายาของเขา บางครั้ง เศรษฐีนั้นพร้อมกับ
ชนบริวารเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้เป็นดังดวงอาทิตย์
ของนรชนได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นเหตุนำ
๑. ขุ. ๓๓/ข้อ ๑๖๗. ภัททกาปิลานีเถรีอปทาน.
 
๕๔/๔๓๘/๑๑๖

ไม่มีความคิดเห็น: