วันศุกร์, พฤศจิกายน 11, 2565

Dok Mai

 
มา ๆ ในเทวโลก และมนุษยโลก ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในสักย-
ราชตระกูล ได้นามว่าภคุ เจริญวัยแล้ว ออกบวชพร้อมท่านพระอนุรุทธะ
และพระกิมิละ อยู่ในพาลกโลณกคาม วันหนึ่ง เพื่อจะบรรเทาความที่ถูก
ถีนมิทธะครอบงำ จึงออกจากวิหาร ขึ้นสู่ที่จงกรมล้มลง ทำการล้มนั้น
นั่นแหละให้เป็นขอสับ บรรเทาถีนมิทธะ เจริญวิปัสสนาบรรลุพระ-
อรหัตแล้ว. ด้วยเหตุนั้นท่านจึงกล่าวไว้ในอปทานว่า
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตระ ผู้มี
ยศใหญ่ปรินิพพานแล้ว เราได้เอาผอบอันเต็มด้วยดอกไม้อาทิผิด อาณัติกะ
ไปบูชาพระสรีระ เรายังจิตให้เลื่อมใสในบุญกรรมนั้นแล้ว
ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เราถึงจะไปอยู่ยังเทวโลก ก็
ยังประพฤติพรหมจรรย์อยู่ ฝนดอกไม้ตกจากฟากฟ้า
เพื่อเราตลอดกาลทั้งปวง เราสมภพในมนุษย์ก็เป็นพระ-
ราชาผู้มียศใหญ่ ในอัตภาพนั้นฝนดอกโกสุมตกลงมาเพื่อ
เราทุกเมื่อ เพราะอำนาจที่เอาดอกไม้บูชาที่พระสรีระของ
พระพุทธเจ้าผู้ทรงเห็นเหตุนี้เป็นการเห็นครั้งสุดท้ายของ
เรา ภพที่สุดกำลังเป็นไป ถึงทุกวันนี้ ฝนดอกไม้ก็ตกลง
มาเพื่อเราทุกเวลา ในแสนกัปแต่ภัทรกัปนี้ เราเอาดอกไม้
ใดบูชา ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง
การบูชาพระสรีระ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว...ฯลฯ...
พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ก็แลครั้น ท่านบรรลุพระอรหัตแล้ว ปล่อยให้กาลล่วงไปด้วยสุขอัน
เกิดแต่ผลจิต และสุขอันเกิดแต่พระนิพพาน อันพระศาสดาผู้เสด็จเข้าไป

๑. ม. ม. ๑๓/ข้อ ๑๙๕. กิมพิละ. ๒. ขุ. อ. ๓๓/ข้อ ๔๘.
 
๕๒/๓๒๔/๘

ไม่มีความคิดเห็น: