วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 27, 2565

Okat

 
กาศแล้ว สำรวมในศีลสังวรที่พระตถาคตเจ้า
ผู้มีจักษุเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ทรงแสดง
แล้ว คุ้มครองอินทรีย์ มีสติทุกเมื่อ ไม่ชุ่มด้วย
กิเลส ตัดอนุสัยทั้งปวงอันแล่นไปตามกระแส
บ่วงมาร ชนเหล่านั้นแล บรรลุความสิ้นอาสวะ
ถึงฝั่ง คือ นิพพานในโลกแล้ว.
จบ อักขณสูตรที่ ๙

อรรถกถาอักขณสูตรที่ ๙
อักขณสูตรที่ ๙ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ชาวโลกย่อมทำกิจทั้งหลายในขณะ เพราะเหตุนั้นชาวโลก
นั้นชื่อว่า ขณกิจจะ ผู้ทำกิจในขณะ อธิบาย พอได้โอกาสอาทิผิด อักขระทำกิจ
ทั้งหลาย บทว่า ธมฺโม ได้แก่ ธรรมคือสัจจะทั้ง ๔. บทว่า อุปสมิโก
ได้แก่ นำความสงบกิเลสมาให้. บทว่า ปรินิพฺพานิโก ได้แก่ กระทำ
การดับกิเลสได้สิ้นเชิง. ชื่อว่า สมฺโพธคามี เพราะถึงคือบรรลุ
สัมโพธิญาณ กล่าวคือ มรรคญาณ ๔. คำว่า ทีฆายุกํ เทวนิกายํ นี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายถึงเหล่าอสัญญีเทพ. บทว่า อวิญฺญา-
ตาเรสุ ความว่า ในพวกมิลักขะ ผู้ไม่รู้อย่างยิ่ง.
บทว่า สุปฺปเวทิเต ความว่า อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว
บทว่า อนฺตรายิกา แปลว่า อันกระทำอันตราย. บทว่า ขโณ โว มา
อุปจฺจคา ความว่า ขณะที่ท่านได้แล้วนี้ อย่าล่วงเลยท่านทั้งหลาย
ไปเสีย. บทว่า อิธ เจ น วิราเธติ ความว่า ถ้าใคร ๆ มีปกติประพฤติ
 
๓๗/๑๑๙/๔๕๕

ไม่มีความคิดเห็น: