วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 07, 2566

Apson

 
ต่อมาวันหนึ่ง นางเข้าไปหาภิกษุผู้ฉันเสร็จไหว้แล้ว จึงถามอย่าง
นี้ว่า ท่านเจ้าขา จะหลุดพ้นจากทุกข์มีชาติเป็นต้นนี้ ได้อย่างไรเจ้าคะ.
ภิกษุทั้งหลายให้สรณะและศีล ๕ แก่นางแล้ว ประกาศให้รู้สภาพของ
ร่างกาย ประกอบนางไว้ในปฏิกูลมนสิการใส่ใจว่าปฏิกูล ภิกษุอีกพวกหนึ่ง
กล่าวธรรมีกถาที่เกี่ยวด้วยความไม่เที่ยง. นางรักษาศีลอยู่ ๑๖ ปี ทำ
โยนิโสมนสิการติดต่อกันมาตลอดวันหนึ่ง ได้ความสบายในการฟังธรรม
และเจริญวิปัสสนาเพราะญาณแก่กล้า ก็ทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล.
สมัยต่อมา นางทำกาละแล้วไปเกิดเป็นนางบำเรอสนิทเสน่หาของท้าว
สักกเทวราช. นางอันดุริยเทพหกหมื่นบำเรออยู่ มีอัปสรอาทิผิด สระแสนหนึ่งแวดล้อม
เสวยทิพย์สมบัติใหญ่ ร่าเริงบันเทิงพร้อมด้วยบริวาร เที่ยวไปในอุทยาน
เป็นต้น. ท่านพระมหาโมคคัลลานะ เห็นนางแล้ว ได้ถามโดยนัยที่กล่าว
ในหนหลังนั่นแหละว่า
ท่านแวดล้อมด้วยหมู่เทพนารี เที่ยวชมไปโดย
รอบในสวนจิตตลดาวันอันน่ารื่นรมย์ ประดุจท้าว
สักกเทวราช ส่องแสงสว่างไสวไปทุกทิศ เหมือนดาว
ประกายพรึก เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะ.
เช่นนี้ เพราะบุญอะไร อิฐผลนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน
และโภคทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.
ดูราเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถาม
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ ท่าน
จึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีของท่านจึง
สว่างไสวไปทั่วทุกทิศ.
 
๔๘/๑๘/๑๕๘

ไม่มีความคิดเห็น: