วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 24, 2566

Sangkhathiset

 
จริงอยู่ คาถานี้ตรัสหมายเอาภิกษุณีผู้พูดส่งเสริมนี้. ส่วนความต่าง
แห่งอาบัติของภิกษุณีผู้พูดส่งเสริมนอกนี้ ทรงจำแนกไว้แล้วในสิกขาบทที่ ๑
แล. คำที่เหลือตื้นทั้งนั้นแล.
สิกขาบทนี้ มีสมุฏฐาน ๓ เป็นกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลก-
วัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต มีเวทนา ๓ ดังนี้แล.
อรรถกถาสังฆาทิเสสอาทิผิด อักขระสิกขาบทที่ ๖ จบ

สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๗
เรื่องภิกษุณีจัณฑกาลี
[๖๑] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชต-
วัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
จัณฑกาลีทะเลาะกับภิกษุณีทั้งหลาย โกรธ ขัดใจ แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้า
ขอบอกคืนพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าขอบอกคืนพระธรรม ข้าพเจ้าขอบอกคืน
พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอบอกคืนสิกขา ภิกษุณีที่ขอสมณี จะมีเฉพาะสมณีเหล่า
ศากยธิดาเหล่านี้เมื่อไร แม้สมณีเหล่าอื่นที่มีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้
ใคร่ต่อสิกขาก็ยังมี ข้าพเจ้าจะไปประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักสมณีเหล่านั้น
ดังนี้.
บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย. . . ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียนโพนทะนา
ว่าไฉน แม่เจ้าจัณฑกาลี จึงได้โกรธ ขัดใจ กล่าวอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้าขอ
บอกคืนพระพุทธเจ้า. . . ข้าพเจ้าขอบอกคืนสิกขา ภิกษุณีที่ชื่อว่าสมณี จะมี
เฉพาะสมณีเหล่าศากยธิดาเหล่านี้เมื่อไร แม้สมณีเหล่าอื่นที่มีความละอาย มี
 
๕/๖๐/๘๒

ไม่มีความคิดเห็น: