วันอังคาร, มีนาคม 26, 2567

Sabbapathi

 
คือกล่าวสอนธุดงค์ ๑๓ มีเตจีวริกังคธุดงค์เป็นต้น และด้วยธุดงคคุณ เป็น
ผู้พิพากษาของพระองค์ คือเป็นประธานในการกระทำตามบัญญัติ คือ
การตัดสิน.
บทว่า พหุสฺสุโต ธมฺมธโร ความว่า ข้าแต่พระมุนีผู้เจริญ
พระอานนท์ ชื่อว่าเป็นพหูสูต เพราะได้ฟังพระธรรมขันธ์ ๘๔,๐๐๐ เป็น
อันมาก คือเพราะได้เรียนมาจากพระผู้มีพระภาคเจ้าและจากภิกษุสงฆ์
ชื่อว่าผู้ทรงธรรม เพราะทรงธรรมคือนิกายนับได้หกแสนมิใช่น้อย และ
ปรมัตถธรรมมีสติปัฏฐานเป็นต้น.
บทว่า สพฺพปาฐีอาทิผิด อักขระ จ สาสเน ความว่า พระเถระมีนามชื่อว่า
อานนท์ ชื่อว่าผู้ชำนาญพระบาลีทั้งปวง เพราะเป็นผู้เลิศคือเป็นผู้
ประเสริฐแห่งภิกษุทั้งปวง ผู้กล่าวคือผู้สาธยายพระบาลีทั้งปวงในพระ-
พุทธศาสนา. บทว่า ธมฺมารกฺโข ตว ความว่า เป็นผู้อารักขา คือ
เป็นผู้รักษา ปกครองธรรม ได้แก่ภัณฑะ คือพระไตรปิฎกธรรมของ
พระองค์ อธิบายว่า เป็นคลังธรรม.
บทว่า เอเต สพฺเพ อติกฺกมฺม ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีภัคยะคือบุญ ทรงละคือทรงเว้นพระเถระ
ทั้งหลายแม้ผู้มีอานุภาพมากมีพระสารีบุตรเป็นต้นเหล่านี้เสีย ทรงประมาณ
คือได้ทรงกระทำประมาณ ได้แก่ ได้ทรงใส่พระทัยเฉพาะเราเท่านั้น.
บทว่า วินิจฺฉยํ เม ปาทาสิ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมอบ คือได้
ทรงประทานโดยปการะแก่เรา ซึ่งการวินิจฉัย คือการพิจารณาโทษใน
พระวินัย อันบัณฑิตทั้งหลายผู้รู้วินัยแสดงไว้แล้ว คือประกาศไว้แล้ว.
 
๗๐/๘/๖๐๖

ไม่มีความคิดเห็น: