เมื่อดิฉันเป็นมนุษย์อยู่นั้น มีจิตเลื่อมใส
ได้ถวายแป้งคั่วอันเจือด้วยน้ำมัน แก่ภิกษุเที่ยว
บิณฑบาต ผู้มีจิตซื่อตรง ดิฉันเสวยวิบากแห่ง
กุศลกรรมนั้นในวิมานนี้สิ้นกาลนาน ก็ผลบุญนั้น
เดี๋ยวนี้ยังเหลือนิดหน่อย พ้น ๔ เดือนไปแล้ว
ดิฉันจักจุติจากวิมานนี้ จักไปตกนรกอันเร่าร้อน
สาหัส มี ๔ เหลี่ยม มี ๔ ประตู จำแนกเป็น
ห้อง ๆ ล้อมด้วยกำแพงเหล็ก ครอบด้วยแผ่น
เหล็ก พื้นนรกนั้นล้วนเป็นเหล็กแดง ลุกเป็น
เปลวเพลิง ประกอบด้วยความร้อน แผ่ไปตลอด
ร้อยโยชน์โดยรอบ ตั้งอยู่ทุกเมื่อ ดิฉันจักต้อง
เสวยทุกขเวทนาในนรกนั้นตลอดกาลนาน ก็การ
เสวยทุกข์เช่นนี้เป็นผลแห่งกรรมชั่ว เพราะ
ฉะนั้น ดิฉันจึงเศร้าโศกที่จะไปเกิดในนรกนั้น.
จบ ขัลลาติยเปติวัตถุที่ ๑๐
อรรถกถาขัลลาติยเปติวัตถุที่ ๑๐
พระ ศาสดาอาทิผิด อักขระ เมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภ
นางเปรตขัลลาฏิยะตนหนึ่ง จึงตรัสคำเริ่มต้นว่า กา นุ อนฺโต
วิมานสฺมึ ดังนี้.
ได้ถวายแป้งคั่วอันเจือด้วยน้ำมัน แก่ภิกษุเที่ยว
บิณฑบาต ผู้มีจิตซื่อตรง ดิฉันเสวยวิบากแห่ง
กุศลกรรมนั้นในวิมานนี้สิ้นกาลนาน ก็ผลบุญนั้น
เดี๋ยวนี้ยังเหลือนิดหน่อย พ้น ๔ เดือนไปแล้ว
ดิฉันจักจุติจากวิมานนี้ จักไปตกนรกอันเร่าร้อน
สาหัส มี ๔ เหลี่ยม มี ๔ ประตู จำแนกเป็น
ห้อง ๆ ล้อมด้วยกำแพงเหล็ก ครอบด้วยแผ่น
เหล็ก พื้นนรกนั้นล้วนเป็นเหล็กแดง ลุกเป็น
เปลวเพลิง ประกอบด้วยความร้อน แผ่ไปตลอด
ร้อยโยชน์โดยรอบ ตั้งอยู่ทุกเมื่อ ดิฉันจักต้อง
เสวยทุกขเวทนาในนรกนั้นตลอดกาลนาน ก็การ
เสวยทุกข์เช่นนี้เป็นผลแห่งกรรมชั่ว เพราะ
ฉะนั้น ดิฉันจึงเศร้าโศกที่จะไปเกิดในนรกนั้น.
จบ ขัลลาติยเปติวัตถุที่ ๑๐
อรรถกถาขัลลาติยเปติวัตถุที่ ๑๐
นางเปรตขัลลาฏิยะตนหนึ่ง จึงตรัสคำเริ่มต้นว่า กา นุ อนฺโต
วิมานสฺมึ ดังนี้.
๔๙/๙๕/๙๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น