วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 05, 2566

Nirot

 
ในขณะนั้น ณ ภูเขาคันธมาทน์มีพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่งเข้า
นิโรธอาทิผิด อักขระสมาบัติอยู่ตลอด ๗ วัน ครั้นออกจากนิโรธสมาบัติแล้ว จึงตรวจดู
สัตวโลกเห็นสังขพราหมณ์กำลังนำทรัพย์มา รำพึงอยู่ว่า มหาบุรุษจะไป
นำทรัพย์มา อันตรายในมหาสมุทร จักมีแก่เขาหรือไม่มีหนอ รู้ว่า จักมี
อันตราย คิดว่ามหาบุรุษผู้นี้เห็นเราจักถวายร่มและรองเท้าแก่เราด้วยอานิ-
สงส์ถวายรองเท้า เมื่อเรือแตกในมหาสมุทรจักได้ที่พึ่ง เราจักอนุเคราะห์
เขา จึงเหาะไปทางอากาศ แล้วลงไม่ไกลสังขพราหมณ์นั้น ครั้นเวลาเที่ยง
ด้วยลมและแดดอันร้อนแรง เหยียบทรายร้อนคล้ายกับลาดไว้ด้วยถ่านไฟ
เดินมาถึงข้างหน้าสังขพราหมณ์นั้น. สังขพราหมณ์เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
นั้น มีความยินดีร่าเริงคิดว่า บุญเขตมาหาเราแล้ววันนี้ เราควรจะหว่านพืช
ในเขตนี้. ด้วยเหตุพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสพระดำรัสมีอาทิว่า เราเห็น
พระปัจเจกพุทธเจ้านั้นเดินสวนทางมา จึงคิดเนื้อความนี้ ดังนี้.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อิทํ เขตฺตํ เป็นต้น แสดงอาการคิด. บทว่า
เขตฺตํ ชื่อว่า เขต เพราะป้องกันพืชที่หว่านไปโดยทำให้มีผลมาก คือพื้นที่
ปลูกปุพพัณณชาติ ( เช่นข้าว ข้าวฟ่าง ลูกเดือย เป็นต้น ) และอปรัณ-
ณ ชาติ ( เช่นถั่ว งา เป็นต้น นอกจากข้าว ) ให้งอกงาม. ในที่นี้พระปัจเจก
พุทธเจ้าเป็นทักขิไณยบุคคลผู้เลิศ ชื่อว่าเป็นบุญเขตเพราะเป็นดุจเขต. ด้วย
เหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปุญฺญกามสฺส ชนฺตุโน ผู้เป็นสัตว์ต้องการบุญ.
บทว่า มหาคมํ คือเป็นที่มาแห่งผลอันไพบูลย์ อธิบายว่า ให้ความสมบูรณ์
แห่งข้าวกล้า. บทว่า พีชํ น โรเปติ คือไม่ปลูกพืช.
 
๗๔/๒/๕๙

ไม่มีความคิดเห็น: