วันพุธ, เมษายน 14, 2564

Du Kon

 
แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่
ความไม่หวังก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล นั่น
เพราะเหตุไร ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาไม่สามารถจะบรรลุผลได้โดยอุบายไม่
แยบคาย.
[๔๑๓] ดูก่อนภูมิชะ เปรียบเหมือนบุรุษต้องการไฟ แสวงหาไฟ
จึงเที่ยวเสาะหาไฟ เอาไม้สดที่มียางมาทำไม้สีไฟ สีกัน ไป ถ้าแม้ทำความหวัง
แล้วเอาไม้สดที่มียางมาทำไม้สีไฟ สีกัน ไป เขาก็ไม่สามารถจะได้ไฟ ถ้าแม้
ทำความไม่หวังแล้วเอาไม้สดที่มียางมาทำไม้สีไฟ สีกันไป เขาก็ไม่สามารถจะ
ได้ไฟ ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้ว เอาไม้สดที่มียางมาทำไม้สีไฟ
สีกันไป เขาก็ไม่สามารถจะได้ไฟ ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่ ความไม่หวัง
ก็มิใช่ แล้วเอาไม้สดที่มียางมาทำไม้สีไฟ สีกัน ไป เขาก็ไม่สามารถจะได้ไฟ
นั่นเพราะเหตุไร ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาไม่สามารถจะได้ไฟโดยวิธีไม่แยบคาย
ฉันใด ดูอาทิผิด อักขระก่อนภูมิชะอาทิผิด สระ ฉันนั้น เหมือนกันแล สมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวก
หนึ่งที่มีทิฐิผิด ฯล ฯ มีสมาธิผิด ถ้าแม้ทำความหวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์
เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำความไม่หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์
เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้วประพฤติ
พรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวัง
ก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็ไม่สามารถจะบรรลุผล นั่น เพราะเหตุไร
ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาไม่สามารถจะบรรลุผลได้โดยอุบายไม่แยบคาย
ว่าด้วยการบรรลุผล
[๔๑๔] ดูก่อนภูมิชะ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่งที่มี
ทิฐิชอบ มีสังกัปปะชอบ มีวาจาชอบ มีกัมมันตะชอบ มีอาชีวะชอบ มี
วายามะชอบ มีสติชอบ มีสมาธิชอบ ถ้าแม้ทำความหวังแล้วประพฤติพรหม-
จรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล ถ้าแม้ทำความไม่หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์
 
๒๓/๔๑๓/๑๐๕

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก