วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 11, 2566

Sadung

 
ลำดับนั้นแล พระราชโอรสผู้ทรงพระปรีชา
ถวายบังคมพระยุคลบาท พระชนกชนนีแล้วเสด็จไป.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปาเท ความว่า ถวายบังคมพระยุคลบาท
พระชนกชนนีเสด็จไปแล้ว.
ลำดับนั้น พระชนกชนนีก็ดี พระภคินีก็ดี พระชายาก็ดี ของพระราช
กุมารนั้น พร้อมด้วยหมู่อำมาตย์ และบริวารชนก็เสด็จออกไปด้วย. ครั้น
พระราชกุมารนั้นออกจากพระนครแล้ว ก็ทูลถามหนทางกะพระราชบิดากำหนด
ไว้ด้วยดีแล้ว ถวายบังคมพระชนกชนนี ประทานโอวาทแก่ชนที่เหลือ แล้ว
มิได้สะดุ้งอาทิผิด สระตกพระทัยกลัว เสด็จขึ้นสู่ทางดำเนินไปสู่ที่อยู่ของยักษ์ ประหนึ่งว่า
ไกรสรสีหราชฉะนั้น. พระมารดาทอดพระเนตรเห็นพระกุมารกำลังทรงดำเนิน
ไป ไม่สามารถจะดำรงพระองค์อยู่ได้ ก็ล้มลง ณ พื้นปฐพี. พระราชบิดา
ก็ทรงประคองพระพาหา คร่ำครวญด้วยเสียงอันดัง.
เมื่อพระบรมศาสดาจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงทรงตรัสพระคาถา
กึ่งคาถา ความว่า
พระชนนีของพระราชกุมารนั้น ทรงมีทุกข์
โทมนัสล้มลงเหนือพื้นปฐพี พระชนกนาถเล่า ก็ทรง
ประคองสองพระพาหา คร่ำครวญด้วยเสียงอันดัง.
ครั้นตรัสกึ่งพระคาถาดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงประกาศสัจจกิริยา อัน
พระราชบิดาของพระกุมารนั้นทรงประกอบ และอันพระราชมารดาพระภคินี
และพระชายาทรงกระทำแล้ว จึงได้ตรัสพระคาถาต่อไปอีก ๔ คาถา ความว่า
พระราชบิดา ทรงทราบชัดว่า พระโอรสกำลัง
มุ่งหน้าเสด็จไป ทรงเบือนพระพักตร์ประคองอัญชลี
 
๖๑/๒๓๒๖/๓๕๘

ไม่มีความคิดเห็น: