วันพุธ, พฤษภาคม 10, 2566

Songkhram

 
ทั้งหลายกล่าวว่าเป็นขันติอย่างยิ่ง คน
ทุรพลจำต้องอดทนอยู่เป็นนิตย์ บัณฑิต
ทั้งหลายกล่าวกำลังของผู้ซึ่งมีกำลังอย่าง
คนพาลว่ามิใช่กำลัง ไม่มีผู้ใดที่จะกล่าว
โต้ต่อผู้มีกำลังผู้ซึ่งอาทิผิด อาณัติกะธรรมคุ้มครองแล้วได้
เลย เพราะความโกรธนั้น โทษที่ลามก
จึงมีแก่ผู้ที่โกรธตอบต่อผู้ที่โกรธ บุคคลผู้
ไม่โกรธตอบต่อผู้ที่โกรธ ย่อมชื่อว่าชนะ
สงครามอาทิผิด อักขระซึ่งเอาชนะได้ยาก ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่น
โกรธแล้ว เป็นผู้มีสติระงับไว้ได้ ผู้นั้น
ชื่อว่าประพฤติประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
คือ ทั้งฝ่ายตนและคนอื่น คนที่ไม่ฉลาด
ในธรรม ย่อมสำคัญเห็นผู้รักษาประโยชน์
ของทั้งสองฝ่าย คือ ของตนและของคน
อื่น ว่าเป็นคนโง่ ดังนี้.
[๘๗๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ท้าวสักกะจอมเทวดาพระองค์นั้น
เข้าไปอาศัยผลบุญของพระองค์เป็นอยู่ เสวยรัชสมบัติมีความเป็นใหญ่ยิ่งด้วย
ความเป็นอิสระแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ ยังพรรณนาคุณของขันติ และโสรัจจะ
ได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่พวกเธอบวชแล้วในธรรมวินัยที่เรากล่าว
ชอบแล้วเช่นนี้ เป็นผู้อดทนและสงบเสงี่ยมนี้ จะพึงงามในธรรมวินัยนี้โดยแท้.
 
๒๕/๘๗๖/๔๗๑

ไม่มีความคิดเห็น: