วันพุธ, กรกฎาคม 12, 2566

Phro

 
เป็นชื่อ (เรียกกัน) ในโลก อธิบายว่า เป็นเพียงเรียกกัน. เพราะเหตุไร.
เพราะสมมุติ เรียกกัน คือ มาโดยการหมายรู้กัน. เพราะอาทิผิด สระชื่อและโคตรนั้น
ญาติสาโลหิตจัดแจงไว้ตั้งไว้ในเวลาที่เขาเกิดในที่นั้น ๆ. หากไม่กำหนดชื่อ
และโคตรนั้นไว้อย่างนั้น คนไร ๆ เห็นใคร ๆ ก็จะไม่รู้ว่าผู้นี้เป็นพราหมณ์
หรือว่า เป็นภารทวาชะ. ก็ชื่ออาทิผิด และโคตรนั้นที่เขากำหนดไว้อย่างนั้น กำหนด
ไว้เพื่อความรู้สึกว่า ทิฐิอันนอนเนื่องอยู่สิ้นกาลนาน ทิฐิอันนอนเนื่องอยู่สิ้น
กาลนานในหทัยของสัตว์ทั้งหลายผู้ไม่รู้ว่า นั่นสักแต่ว่าชื่อและโคตรที่เขากำหนด
ไว้เพื่อเรียกกัน อธิบายว่าเพราะทิฐินั้นนอนเนื่องอยู่ ผู้ไม่รู้ชื่อและโคตรนั้น
คือไม่รู้เลยว่า เป็นพราหมณ์ ก็เที่ยวพูดอย่างนี้ว่า ผู้นี้เป็นพราหมณ์เพราะชาติ
ดังนี้.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า บุคคลผู้ถือมั่นว่า เป็นพราหมณ์โดย
ชาตินั้น ไม่รู้มาตรว่าการเรียกกันนี้ ทิฐิอันนั้นของคนเหล่านั้นเป็นทิฐิชั่ว ดัง
นี้อย่างนี้แล้ว บัดนี้ เมื่อจะทรงปฏิเสธวาทะว่าด้วยชาติอย่างเด็ดขาด และทรง
ตั้งวาทะว่าด้วยกรรม จึงตรัสคำเป็นต้นว่า มิใช่เพราะชาติ ดังนี้ . เพื่อขยาย
ความของกึ่งคาถาที่ว่า เพราะกรรม ดังนี้ ในพระดำรัสนั้น จึงตรัสคำว่า
เป็นชาวนาเพราะการงาน ดังนี้เป็นต้น . บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เพราะ
การงาน ได้แก่ เพราะกรรมคือเจตนาตัวบังเกิดการงานมีกสิกรรมเป็นต้น
อันเป็นปัจจุบัน. บทว่า ปฏิจจสมุปบาท ได้แก่มีปรกติเห็นปฏิจจสมุปบาท
อย่างนี้ว่า เป็นอย่างนี้เพราะปัจจัยนี้. บทว่า ผู้รู้ในกรรมและผลของกรรม
ความว่า ผู้ฉลาดในกรรมและผลของกรรมอย่างนี้ว่า ย่อมมีการอุบัติในตระกูล
อันควรแก่การนับถือและไม่นับถือ เพราะอำนาจกรรม ความเลวและความ
ประณีตแม้อื่น ๆ ย่อมมีในเมื่อกรรมเลว และประณีตให้ผล. ก็พระคาถาว่า
 
๒๑/๗๐๘/๔๒๕

ไม่มีความคิดเห็น: