เพราะสมณพราหมณ์เป็นอันมาก กล่าวธรรมของผู้อื่นโดยความเป็นธรรมเลว
สมณพราหมณ์ทั้งหมดเหล่านั้น ในธรรมของตนกล่าวว่ามั่นคง. มีอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น. พึงทราบคาถาว่า สธมฺมปูชา การบูชาธรรมของตน ดังนี้
เป็นต้น ต่อไป.
บทนั้นมีความดังนี้ พวกเดียรถีย์เหล่านั้นย่อมสรรเสริญหนทางเครื่อง
ดำเนินของตนอย่างใด แม้การบูชาธรรมของตนของเดียรถีย์เหล่านั้น ก็ยัง
เป็นไปอยู่อย่างนั่น เพราะว่าพวกเดียรถีย์เหล่านั้นย่อมเคารพศาสดาเป็นต้น
เหลือเกิน. ในข้อนั้น ผิว่าการบูชาธรรมของตนอาทิผิด อักขระ จะพึงเป็นประมาณแก่พวก
เดียรถีย์เหล่านั้น เมื่อเป็นอย่างนั้น วาทะทั้งหมดก็จะพึงเป็นของแท้. เพราะ
อะไร. เพราะว่าความบริสุทธิ์ของเดียรถีย์เหล่านั้น เป็นผลเฉพาะตน ๆ เท่านั้น
ความบริสุทธิ์นั้นย่อมไม่สำเร็จในที่อื่น แม้โดยปรมัตถ์ก็ไม่สำเร็จ เพราะคำนั้น
เป็นเพียงยึดถือความเห็นในตนเท่านั้นของผู้รู้ที่ปัจจัยอื่นจะพึงนำไปเหล่านั้น
แต่ตรงกันข้ามผู้ใดชื่อว่าเป็นพราหมณ์เพราะลอยบาปได้แล้ว พึงทราบอาทิผิด สระ คาถาว่า
โย ปน วิปรีโต ฯเปฯ ปรเนยฺยมตฺถิ ญาณที่ผู้อื่นพึงนำไปไม่มีแก่
พราหมณ์นั้น ดังนี้ต่อไป.
บทนั้นมีความดังนี้ ญาณที่ผู้อื่นจะพึงนำไป ย่อมไม่มีแก่พราหมณ์
เพราะเห็นชอบแล้วโดยนัยมีอาทิว่า สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง ดังนี้. การ
วินิจฉัยในธรรมคือทิฏฐิทั้งหลายว่าข้อนี้เท่านั้นจริง ดังนี้แล้วยึดถือไว้ ไม่มีแก่
พราหมณ์. เพราะอะไร. เพราะว่าพราหมณ์นั้นล่วงความวิวาทเพราะทิฏฐิเสียได้
อนึ่งพราหมณ์นั้นไม่เห็นธรรมอื่นโดยความเป็นธรรมประเสริฐเลยนอกจาก
สติปัฏฐานเป็นต้น.
สมณพราหมณ์ทั้งหมดเหล่านั้น ในธรรมของตนกล่าวว่ามั่นคง. มีอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น. พึงทราบคาถาว่า สธมฺมปูชา การบูชาธรรมของตน ดังนี้
เป็นต้น ต่อไป.
บทนั้นมีความดังนี้ พวกเดียรถีย์เหล่านั้นย่อมสรรเสริญหนทางเครื่อง
ดำเนินของตนอย่างใด แม้การบูชาธรรมของตนของเดียรถีย์เหล่านั้น ก็ยัง
เป็นไปอยู่อย่างนั่น เพราะว่าพวกเดียรถีย์เหล่านั้นย่อมเคารพศาสดาเป็นต้น
เหลือเกิน. ในข้อนั้น ผิว่าการบูชาธรรมของ
เดียรถีย์เหล่านั้น เมื่อเป็นอย่างนั้น วาทะทั้งหมดก็จะพึงเป็นของแท้. เพราะ
อะไร. เพราะว่าความบริสุทธิ์ของเดียรถีย์เหล่านั้น เป็นผลเฉพาะตน ๆ เท่านั้น
ความบริสุทธิ์นั้นย่อมไม่สำเร็จในที่อื่น แม้โดยปรมัตถ์ก็ไม่สำเร็จ เพราะคำนั้น
เป็นเพียงยึดถือความเห็นในตนเท่านั้นของผู้รู้ที่ปัจจัยอื่นจะพึงนำไปเหล่านั้น
แต่ตรงกันข้ามผู้ใดชื่อว่าเป็นพราหมณ์เพราะลอยบาปได้แล้ว พึง
โย ปน วิปรีโต ฯเปฯ ปรเนยฺยมตฺถิ ญาณที่ผู้อื่นพึงนำไปไม่มีแก่
พราหมณ์นั้น ดังนี้ต่อไป.
บทนั้นมีความดังนี้ ญาณที่ผู้อื่นจะพึงนำไป ย่อมไม่มีแก่พราหมณ์
เพราะเห็นชอบแล้วโดยนัยมีอาทิว่า สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง ดังนี้. การ
วินิจฉัยในธรรมคือทิฏฐิทั้งหลายว่าข้อนี้เท่านั้นจริง ดังนี้แล้วยึดถือไว้ ไม่มีแก่
พราหมณ์. เพราะอะไร. เพราะว่าพราหมณ์นั้นล่วงความวิวาทเพราะทิฏฐิเสียได้
อนึ่งพราหมณ์นั้นไม่เห็นธรรมอื่นโดยความเป็นธรรมประเสริฐเลยนอกจาก
สติปัฏฐานเป็นต้น.
๔๗/๔๒๐/๘๒๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น