วันพฤหัสบดี, เมษายน 04, 2567

Ka

 
ขับร้องและเครื่องประโคมทั้งหลาย บัดนี้ หม่อมฉัน
นั้นไม่ยินดีอยู่ในสวรรค์เลย จะหมดอายุ หรือใกล้
จะตาย หรือว่าหม่อมฉันหลงใหลไปเสียแล้ว.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อายุนฺนุ ขีณํ ความว่า พระเจ้าสาธินราช
ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐกว่าจอมนรชนและเทพทั้งหลาย ชีวิตินทรีย์
ในสรีระของหม่อมฉันสิ้นแล้วหรือไฉนเล่า หรือว่าชีวิตินทรีย์เกิดจะใกล้ต่อ
มรณะ ด้วยอำนาจกรรมอันจะตัดรอน.
ลำดับนั้น ท้าวสักกะตรัสกับอาทิผิด ท้าวเธอว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้ากว่านรชน ผู้ประเสริฐ
พระชนมายุของพระองค์ยังไม่หมดสิ้น ความสิ้น
พระชนม์ก็ยังห่างไกล อนึ่ง พระองค์จะได้ทรงหลงใหล
ไปก็หาไม่ แต่ว่าวิบากแห่งบุญกุศลของพระองค์ ที่ได้
ทรงเสวยในเทวโลกนี้มีน้อยไป ข้าแต่พระราชาผู้
ประเสริฐ ผู้เป็นใหญ่ทั่วทิศ ขอเชิญพระองค์ประทับ
อยู่ เสวยกามคุณอันมิใช่ของมนุษย์ ในหมู่ทวยเทพ
ชาวดาวดึงส์ ด้วยเทวานุภาพต่อไปเถิด.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปริตฺตกานิ นี้ ท้าวสักกะทรงหมายถึง
บุญอันให้วิบากในเทวโลกด้วยอัตภาพนั้น จึงตรัสดังนี้ แต่ว่าบุญของพระ-
สาธินราชนอกจากนี้หาประมาณมิได้ ประดุจฝุ่นในแผ่นดินฉะนั้น. บทว่า
วส เทวานุภาเวน ความว่า หม่อมฉันขอแบ่งบุญทั้งหลายของตน ถวาย
แด่พระองค์ เชิญพระองค์ประทับอยู่ด้วยอานุภาพของหม่อมฉันเถิด พระเจ้าข้า.
 
๖๐/๒๐๐๐/๕๐๒

ไม่มีความคิดเห็น: