วันศุกร์, ธันวาคม 08, 2566

Khao

 
เหมือนหญ้าปล้อง มีฤทธิ์เหาะได้. พระเจ้ามหาสุทัสสนะทอดพระเนตรเห็น
ก็ทรงเลื่อมใส ตรัสว่า ผู้เจริญ ยานคือม้าถ้าฝึกหัดได้ ก็จะเป็นยานม้าที่ดี.
ทันใดนั้น อานนท์ ม้าแก้วนั้นก็เข้าถึงการฝึกหัดเหมือนม้าอาชาไนยชั้นดี ได้
รับการฝึกมาเป็นอย่างดีสิ้นกาลนาน. อานนท์ เล่ากันมาว่า พระเจ้ามหา-
สุทัสสนะจะทรงพิสูจน์ม้าแก้วนั้นเอง ตอนเช้าก็เสด็จขึ้นทรงแล้ว ควบไปทั่ว
แผ่นดินจนจรดขอบทะเล แล้วเสด็จกลับกรุงกุสาวดี เสวยพระกระยาหารเช้า.
อานนท์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะ ทรงมีม้าแก้วเห็นปานนี้แล้ว.
[๑๖๗] อานนท์ ข้ออื่นยังมีอีก พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงมีแก้วมณี
เป็นแก้วมณีชนิดไพฑูรย์ ชั้นงาม มีกำเนิด แปดเหลี่ยม เจียระไนอย่างดี
สุกใสแวววาว มีอาการสมบูรณ์ทุกอย่าง. อานนท์ ก็แหละ แก้วมณีนั้นแล
มีรัศมีแผ่ไปตั้งโยชน์หนึ่งโดยรอบ. อานนท์ เคยมีเรื่องเล่าว่า พระเจ้ามหา-
สุทัสสนะ จะทรงทดลองแก้วมณีดวงนั้นเอง ทรงเตรียมกองทัพสี่เหล่าแล้ว
เอาแก้วมณีวางบนยอดธงเสด็จออกไปในกลางคืนที่มืดมิด. อานนท์ ก็แลพวก
ชาวบ้านโดยรอบต่างเข้าใจว่า เป็นกลางวัน จึงพากันประกอบการงานด้วยแสง
นั้น. อานนท์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะได้ทรงมีแก้วมณีเห็นปานนี้แล้ว.
[๑๖๘] อานนท์ ยังมีข้ออื่นอีก นางแก้วได้ปรากฏขึ้นแก่พระเจ้า
มหาสุทัสสนะเป็นหญิงมีรูปงาม น่าชม น่าเลื่อมใส ถึงพร้อมด้วยผิวพรรณที่
งดงามอย่างยิ่ง ไม่สูงนัก ไม่เตี้ยนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่
ขาวอาทิผิด อักขระนัก ไม่ถึงกับเป็นผิวทิพย์ แต่ก็ล่วงผิวหญิงมนุษย์. อานนท์ ก็แหละ
สัมผัสทางกายของนางแก้วนั้นแล เป็นดังนี้ คือเป็นเหมือนปุยนุ่นหรือปุยฝ้าย.
ก็แลอานนท์ เมื่ออากาศเย็น ตัวนางแก้วนั้นเอง ก็ร้อน เมื่ออากาศร้อน ก็
เย็น. อานนท์ ก็แล กลิ่นจันทร์ฟุ้งจากกาย กลิ่นอุบลฟุ้งจากปากของนาง
แก้วนั้นแหละ. อานนท์ ก็แลนางแก้วนั้นแล ตื่นก่อนนอนหลังพระเจ้ามหา-
 
๑๓/๑๖๘/๔๗๘

ไม่มีความคิดเห็น: